single-storey-townhome-2
รีวิวบ้าน

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อบ้าน ทาวน์โฮมชั้นเดียว

ทาวน์โฮมชั้นเดียว

สิ่งที่ควรรู้ก่อนเลือกซื้อบ้าน ทาวน์โฮมชั้นเดียว

ทาวน์โฮมชั้นเดียว เป็นที่อยู่อาศัยแนวราบ ราคาไม่แพงมากนัก เมื่อเทียบกับบ้านเดี่ยวมีโอกาส เป็นบ้านหลังแรกของ มนุษย์เงินเดือนได้เลย โดยส่วนใหญ่ราคาทาวน์โฮม มักจะอยู่ที่ประมาณ 1.5-2.5 ล้านบาท ซึ่งเป็นงบประมาณสำหรับกลุ่มเริ่มต้นทำงาน ซื้อเป็นบ้านหลังแรก พอจะจับต้องได้

สำหรับ บ้านทาวน์โฮม ตามกฎหมาย จะพัฒนาบนที่ดินขนาดเริ่มต้นอยู่ที่ 16 ตารางวา แบบบ้านชั้นครึ่ง และลักษณะของ บ้านทาวน์โฮม จะเป็นบ้านแถวผนังติดกัน ซึ่งหน้าตาของบ้านทาวน์โฮม ของแต่ละโครงการ ก็จะไม่แตกต่างกันมากนัก ใครที่กำลังจะตัดสินใจซื้อทาวน์โฮม ควรพิจารณารายละเอียดดังต่อไปนี้

1. ความลึกของหน้าบ้านทาวน์โฮม

ตามกฎหมายจะต้องลึกอย่างน้อย 3 เมตร ซึ่งพอที่จะจอดรถเก๋งเล็กได้ ซึ่งความลึกของหน้าบ้าน หรือที่จอดรถมีความสำคัญพอๆ กับความกว้างของหน้าบ้าน เพราะความลึกของหน้าบ้านจะ เป็นตัวบอกว่าเจ้าของบ้านสามารถจอดรถได้กี่คันด้วย บางโครงการเคลมว่าจอดได้ 2 คันจริง จอดได้ 2 คันก็จริง แต่แทบจะเปิดประตูเข้าบ้านไม่ได้ เช่น ใครที่ใช้รถกระบะซึ่งมีความยาวอยู่ที่ประมาณ 5 เมตร ถ้าเราจะเลือกซื้อทาวน์โฮม และสามารถจอดรถ กระบะหน้าบ้านได้ ที่จอดรถต้องลึกอย่างน้อย 5.5 เมตร

2. หน้ากว้างเท่าไร

เมื่อก่อนทาวน์โฮมส่วนใหญ่จะหน้ากว้าง 4 เมตร สามารถจอดรถได้ 1 คัน แต่ปัจจุบันหลายโครงการปรับแบบใหม่เพื่อให้มี Value มากขึ้น ด้วยการทำหน้ากว้างเพิ่มเป็นประมาณ 5 เมตร บางหลัง 5.7-6 เมตรก็มี เพื่อที่สามารถจอดรถได้ 2 คัน หลายโครงการอาจจะเคลมว่าจอดรถได้ 2 คันก็จริง แต่ขนาดหน้ากว้างกว่าย่อมดีกว่า เพราะมีพื้นที่มากกว่า

3. ระบบก่อสร้าง

ส่วนใหญ่ทุกวันนี้ งานก่อสร้างทาวน์โฮมหลายๆ โครงการใช้ระบบการก่อสร้างสำเร็จรูป ใช้ผนังสำเร็จรูป หรือระบบก่อสร้างแบบพรีแคส เนื่องจากมีความแข็งแรง ก่อสร้างได้เร็ว แต่ข้อด้อยของบ้านที่ก่อสร้าง ระบบสำเร็จรูปนี้ คือทุบ เจาะต่อเติมไม่ได้ ฉะนั้นถ้าใครมองเรื่องการต่อเติม เจาะ ทุบหลังจากซื้อไปก็ต้องถามโครงการก่อนนิดนึง

4. เพดานสูง

ความสูงของเพดานก็สำคัญ ตามมาตรฐานเพดาน บ้านทาวน์โฮมจะสูงอยู่ที่ 2.6 เมตร แต่ถ้าโครงการไหนให้เพดานสูง 2.7-3 เมตร นั่นแสดงว่าให้มากกว่าโครงการอื่นๆ จุดเด่นของเพดานสูง คือบ้านจะโปร่งโล่งมากขึ้น และในความคุ้มค่าลูกค้าได้พื้นที่ใช้สอยในแนวตั้งเพิ่มขึ้นด้วย บิวท์อินตู้ได้สูงขึ้น

ทาวน์โฮมชั้นเดียว

5. เสาเข็ม

เรื่องนี้ก็สำคัญ เพราะว่าบางโครงการ จะลงเสาเข็มเฉพาะตัวบ้าน หน้าบ้านบริเวณที่จอดรถ และหลังบ้านไม่ได้ลงไว้ให้ ในอนาคตถ้าอยู่ไปนานๆ ขายบ้านภูเก็ต อาจจะเจอปัญหาบ้านทรุดตามมา ฉะนั้นเวลาไปดูทาวน์โฮม ควรถามเรื่องการลงเสาเข็มหน้าบ้าน และหลังบ้านด้วยเสมอ

6. ความลึกของหลังบ้าน

ตามกฎหมายต้องลึกอยู่ที่ 2 เมตร แต่ถ้าโครงการไหนให้มากกว่า 2 เมตรก็แสดงว่าคนซื้อได้กำไร เพราะได้พื้นที่ดินมากกว่า แต่ก็ต้องดูเปรียบเทียบราคาขายกับโครงการอื่นด้วย

7. ฟังก์ชั่นห้องน้ำ

ส่วนใหญ่ทาวน์โฮม 2 ชั้น จะออกแบบให้มีห้องน้ำ 2 ห้อง คือที่ชั้น 1 และชั้น 2 อย่างละห้อง แต่สำหรับห้องน้ำชั้น 1 บางโครงการจะไม่ได้ทำที่อาบน้ำมาให้ หรือห้องน้ำเล็กเกินไป ฉะนั้นถ้าบ้านไหนสมาชิกเยอะ ห้องน้ำชั้น 1 อาบน้ำได้ก็ถือเป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญ

8. ถนนเข้าออกบ้านสะดวก

ทางเข้าออกรอบบริเวณ บ้านทาวน์โฮมที่สะดวก ไม่ใช่แค่ช่วยเกื้อหนุนสิ่งดีๆ ให้กับเจ้าของบ้านเท่านั้น หากแต่ยังเป็นเรื่องของความสะดวก และง่ายต่อการเดินทาง ยิ่งทาวน์โฮมที่มีบริเวณ จอดรถที่เป็นสัดส่วนด้วยแล้ว ยังต้องประเมินร่วมกับการจราจรเข้าออกให้รอบคอบด้วย

บ้านทาวน์โฮมแปลงมุม

บ้านทาวน์โฮมแปลงมุม

แน่นอนว่าบ้านแปลงมุมของทาวน์โฮม เมื่อเทียบกับบ้านแปลงกลางแล้ว มีความแตกต่างในหลาย ๆ ด้าน ทั้งมุมมอง โครงสร้าง และใช้งานในพื้นที่ ซึ่งมีรายละเอียดดังต่อไปนี้

  • 1. มุมมอง หากเปรียบเทียบบ้านแปลงมุมกับบ้านแปลงอื่น ๆ ของทาวน์โฮมแล้ว บ้านแปลงมุมมีช่อง เปิดที่มากกว่าทาวน์โฮมแปลงกลาง เพราะสามารถมองได้ทั้งหมด 3 ทิศทางทั้งจากด้านหน้า ด้านข้าง และด้านหลังของตัวบ้าน อีกทั้งตัวบ้านยังได้รับแสงธรรมชาติเข้ามามากกว่าด้วย
  • 2. บ้านทาวน์โฮมแปลงมุมมีโครงสร้าง ติดกับบ้านแปลงกลางเพียงด้านเดียว ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมากกว่า และถูกรบกวนจากแปลง ที่อยู่ใกล้เคียงน้อยกว่าแปลงอื่น ๆ
  • 3. การใช้พื้นที่ เนื่องจากพื้นที่ของบ้านทาวน์โฮม แปลงมุมมีพื้นที่ว่างทางด้านข้างของบ้าน ทำให้สามารถต่อเติมพื้นที่ได้ทั้งด้านข้าง และด้านหลังของตัวบ้านนั้น ซึ่งทำให้เกิดการใช้พื้นที่ ที่คุ้มค่ามากกว่าเดิมอีกด้วย
ควรศึกษาเช็คพิจารณาก่อนเลือกตำแหน่งบ้านทาวน์โฮม

ควรศึกษาเช็คพิจารณาก่อนเลือกตำแหน่งบ้านทาวน์โฮม

ทาวน์โฮม ส่วนใหญ่ มักมีหลายร้อยยูนิตในโครงการ ถึงหน้าตา ฟังก์ชั่น พื้นที่ใช้สอยแต่ละยูนิตจะไม่แตกต่างกันมาก แต่การเลือกตำแหน่งที่ตั้งที่ ดีก็เป็นสิ่งสำคัญ ดังต่อไปนี้

  • การวางตัวอาคาร ทาวน์โฮมปกติทั่วไปจะมีช่องเปิด 2 ด้าน คือ ด้านหน้าและด้านหลัง ซึ่งถ้าเราเลือกซื้อทาวน์โฮม ที่ด้านหน้าหันไปทางทิศเหนือ หรือทิศใต้ เนื่องจากทิศเหนือร้อนน้อยที่สุด และได้รับลม ส่วนทิศใต้ร้อนน้อยรองลงมา แต่ยังได้รับแดดในช่วงเที่ยง/บ่าย ส่วนทิศตะวันออกจะได้รับแดดแรงในช่วงเช้า และทิศตะวันตก ได้รับแดดร้อนที่สุดในช่วงเย็น ทำให้ความร้อนสะสมถึงตอนกลางคืน จึงไม่แนะนำให้หันตัวบ้าน ด้านทิศตะวันตก
  • ถนนหน้าบ้านกว้าง ควรต้องกว้างพอที่รถ 2 คันสามารถสวนกันได้สบาย ๆ หรือสามารถเบี่ยงออก เพื่อหลบเวลารถยนต์ บ้านหลังอื่นถอยเข้า ออกจากบ้าน และถ้าให้ดีกว่าคือควรกลับรถบนถนนได้ง่ายด้วย
  • เลือกยูนิตแปลงมุมมีข้อดี ถ้าใครมีงบประมาณพอ ยูนิตแปลงมุมเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะได้พื้นที่ด้านข้างเพิ่ม สามารถต่อเติม ทำเป็นสวน หรือใช้สำหรับทำกิจกรรม ในครอบครัวได้
  • ดูจำนวนยูนิตต่อล็อค ตามกฎหมาย 1 ล็อคของทาวน์โฮมห้ามกว้างเกิน 40 ม. ทำให้โครงการส่วนใหญ่มีจำนวน 6 – 8 ยูนิต / ล็อค ดังนั้น ควรเลือกโครงการที่แต่ละล็อคมียูนิตไม่เยอะ เพราะจะได้ความเป็นส่วนตัวและไม่แออัด
  • ใกล้พื้นที่ส่วนกลาง หรือ พื้นที่สีเขียว ทำให้สามารถเข้าไปใช้เพื่อออกกำลังกาย หรือใช้เวลาพักผ่อนได้อย่างเต็มที่

ข้อดีข้อเสียของบ้านทาวน์โฮม เพื่อประกอบการตัดสินใจซื้อ

ข้อดี

  • บ้านทาวน์โฮม มีขนาดพื้นที่กว้างขวางกว่าทาวน์เฮาส์ ทำให้สามารถนำพื้นที่ส่วนนี้ไป สร้างกิจกรรมอื่นได้ เช่น เปิดร้านค้า เปิดโฮมออฟฟิศทำสวนหย่อมที่มีขนาดกำลังดี
  • มีจำนวนชั้นให้ เลือกมากกว่าทาวน์เฮาส์ โดยส่วนใหญ่ทาวน์เฮาส์จะมีจำนวนแค่ 2 ชั้น นิยมอยู่กันเป็นครอบครัวเล็กๆ ขณะเดียวกัน ทาวน์โฮมมีมากกว่า 2 ชั้นได้ (ส่วนใหญ่ 3 ถึง 4)
  • มีพื้นที่สำหรับจอดรถมากกว่า เนื่องจากส่วนใหญ่ จะมีพื้นที่เหลือบริเวณด้านหน้า ขึ้นอยู่กับแต่ละโครงการ

ข้อเสีย

  • ทาวน์โฮมมักถูกปรับ เป็นโฮมออฟฟิศ ทำให้มีผู้อาศัยอยู่ภายในบ้านค่อนข้างเยอะ อาจจะไม่เพียงพอสำหรับรองรับบริษัท ที่กำลังขยายขึ้น
  • ทาวน์โฮมจะมีราคาสูงกว่า ทาวน์เฮาส์เล็กน้อย ถ้าเทียบกับขนาดและพื้นที่เดียวกัน เนื่องจากประโยชน์ใช้สอย ที่ได้จากทาวน์โฮมมีมากกว่าทาวน์เฮาส์ที่ใช้ เป็นที่อยู่อาศัยเสียมากกว่า